นักเตะที่โชว์ฟอร์มดีของแต่ละทีม
- ซานติ กาซอร์ล่า (อาร์เซน่อล) - ตัวรุกทีมชาติสเปนเข้ามาปั้นเกมให้ "เดอะ กันเนอร์ส" ฤดูกาลที่แล้วเป็นปีแรก แต่ก็ปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็วและเค้นฟอร์มสุดยอดออกมาช่วยให้ "ไอ้ปืนใหญ่" คว้าตั๋วลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้เหล่าบรรดาสาวก "กูนเนอร์ส" จึงเทคะแนนโหวตถึง 55.7 เปอร์เซ็นต์ ยกเพลย์เมกเกอร์เลือดกระทิงเทพที่สุดในซีซั่นที่แล้ว
- แบรด กูซาน (แอสตัน วิลล่า) - แม้ คริสติย็อง เบนเตเก้ จะพังตาข่ายได้ถึง 19 ลูกในลีก แต่จอมหนึบทีมชาติสหรัฐฯ ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ "สิงห์ผงาด" รอดตกชั้นสำเร็จ โดยเสียแค่ 69 ประตูเท่านั้น!!! แต่ก็ยังชนะใจเพื่อนร่วมทีมและโหวตให้เขาเป็นแข้งแห่งปีจนได้ ส่วนดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยม ได้รางวัลนักเตะดาวรุ่งแห่งปีไปนอนกอดแทน
- มาร์ค ฮัดสัน (คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้) - ปราการหลังกัปตันทีม "เดอะ บลูเบิร์ดส์" เป็นหัวใจสำคัญในแนวรับอย่างแท้จริง เมื่อเฝ้าหลังบ้านให้ทีมอย่างแข็งแกร่งช่วยให้ทีมรักษาคลีนชีตได้ถึง 18 เกมใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นก่อน และเสียแค่ 45 ประตูเท่านั้น น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีกเมื่อซีซั่นก่อน จนช่วยให้ยอดทีมจากเวลส์ รีเทิร์นลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 51 ปี
- ฆวน มาต้า (เชลซี) - หากไม่เจ๋งจริงจอมทัพร่างเล็กชาวสแปนิชคงไม่ได้รางวัลนี้ 2 ปีติดต่อกันแน่ เพราะนับตั้งแต่ย้ายจาก บาเลนเซีย มาอยู่กับทีมเมื่อปี 2011 มาต้า ก็ทำผลงานคงเส้นคงวาและเป็นตัวหลักของ "สิงห์บลูส์" ตลอดไม่ว่าใครจะเข้ามากุมบังเหียนทีมก็ตาม ซึ่งหากเจ้าตัวยังรักษาฟอร์มเก่งแบบนี้ได้ในซีซั่นหน้าภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ รางวัลแข้งยอดเยี่ยม "สิงโตน้ำเงินคราม" ครั้งที่ 3 คงไม่หนีไปไหน
- ไมล์ เยดินัค (คริสตัล พาเลซ) - ลืม วิลเฟร็ด ซาฮา ไปได้เลย เพราะนี่คือคนที่ปิดทองหลังพระของ "ดิ อีเกิ้ลส์" ตัวจริง เมื่อกองกลางตัวรับทีมชาติออสเตรเลีย มีทั้งความขยัน ทุ่มเท พร้อมปะทะกับคู่แข่งแบบไม่หวั่นเกรง จนได้ใจกุนซืออย่าง ดูกี้ ฟรีดแมน จนได้เป็นกัปตันทีม ซึ่งแม้ ฟรีดแมน จะหนีไปคุม โบลตัน วันเดอเรอร์ส ช่วงกลางซีซั่นก่อน แต่นายใหญ่คนใหม่อย่าง เอียน ฮอลโลเวย์ ก็ยังเห็นคุณค่าและหวังว่าดาวเตะวัย 28 ปี จะรีดฟอร์มช่วยให้ "ปราสาทเรือนแก้ว" อยู่รอดในลีกสูงสุดได้สำเร็จ
- เลห์ตัน เบนส์ (เอฟเวอร์ตัน) - หลายคนคงเดาได้ไม่ยากว่าต้องเป็นแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษผู้นี้นี่เอง เพราะนอกจากจะเล่นให้กับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ทุกนัดในลีกแล้ว ยังเป็นที่พึ่งของทีมในเรื่องลูกตั้งเตะได้อีกด้วย โชว์ฟอร์มเทพตลอดฤดูกาลแบบนี้ ทำให้ฟูลแบ็กวัย 28 ปี เหมารางวัลแข้งยอดเยี่ยมทั้งจากการโหวตของเหล่าสาวก "เอฟเวอร์โตเนียน" และเพื่อนร่วมทีม แล้วแบบนี้จะไม่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงไปร่วมงานกับ เดวิด มอยส์ นายเก่าอีกครั้งได้อย่างไร
- ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (ฟูแล่ม) - กองหน้าจอมเทคนิคที่เพิ่งมาอยู่ "กระท่อมน้อย" ได้ซีซั่นเดียว แต่ดาวยิงวัย 32 ปี ก็พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า ยังไม่แก่เกินแกงและหมดไฟอย่างที่หลายคนคิด หลังถูกเขี่ยออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ถึงสไตล์การเล่นอาจดูเชื่องช้าเกินไปสำหรับฟุตบอลอังกฤษ แต่ มาร์ติน โยล กุนซือของทีม เห็นพิษสงที่ยังมีอยู่ในตัวของอดีตหัวหอกทีมชาติบัลแกเรีย จึงจับ "เบิร์บ" มาเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ซะเลย ถึงอย่างนั้นก็ยังพังตาข่ายได้ถึง 15 ลูกในลีก แบบนี้แฟนๆ จะไม่เทคะแนนให้ก็ใจร้ายเกินไปแย้ว
- อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้ (ฮัลล์ ซิตี้) - ปีกทีมชาติอียิปต์ ที่กลายเป็นส่วนเกินของ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อซีซั่นที่แล้ว จนถูกปล่อยให้มาค้าแข้งกับ "เดอะ ไทเกอร์ส" แบบยืมตัว และดูเหมือนว่านี่จะเป็นทีมที่ใช่สำหรับตัวเขา เมื่อวิงแบ็กวัย 25 ปี เค้นฟอร์มเก่งออกมาได้อีกครั้ง แม้จะยิงได้แค่ 3 ลูก แต่ก็จ่ายให้เพื่อนพังตาข่ายได้ถึง 9 ครั้ง จนช่วยให้ทีมคว้ารองแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และกลับมาคำรามในลีกสูงสุดอีกครั้ง ผลงานดีแบบนี้ จึงได้ใจแฟนบอลไปแบบไม่ยากเย็น
- หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล) - ถึงซีซั่นที่ผ่านมากองหน้าทีมชาติอุรุกวัยจะสร้างเรื่องให้ตัวเองต้องตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อเมืองผู้ดีมากแค่ไหน วีรกรรมจะฉาวโฉ่เพียงใด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดาวยิงวัย 26 ปี คือหัวใจสำคัญของ "หงส์แดง" ตัวจริงในปีที่ทีมไม่ได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เมื่อลั่นสกอร์ให้ หงส์แดง" ถึง 30 ประตูในทุกรายการ จนสาวก "เดอะค็อป" ลงคะแนนโหวตมากถึง 64 เปอร์เซ็นต์ เหนือกว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ สองแข้งลูกหม้อ ที่ได้อันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ แต่วันที่เจ้าตัวได้รางวัลนี้ มันเกิดขึ้นก่อนที่ ศูนย์หน้าเบอร์ 7 แห่งถิ่น แอนฟิลด์ จะขอย้ายทีมนะซิ แล้วตอนนี้แฟนบอล "หงส์แดง" จะยังรัก ซัวเรซ เหมือนเดิมหรือเปล่าน้า...
- ปาโบล ซาบาเลต้า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) - ในปีที่อะไรก็ดูเหมือนจะไม่เป็นใจให้กับ "เรือใบสีฟ้า" แล่นฉิวลิ่วลมเหมือนฤดูกาลก่อนหน้า แต่ฟูลแบ็กทีมชาติอาร์เจนติน่า คือคนที่แฟนบอลเห็นว่า โชว์ฟอร์มแกร่งได้สม่ำเสมอมากที่สุด เพราะเขาคือหัวใจในเกมรับของ ซิตี้ อย่างแท้จริง ทั้งเติมเกมบุก เฝ้าหลังบ้าน ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ต่อให้ "เดอะ ซิตี้เซ่นส์" ซื้อ ไมค่อน มาจาก อินเตอร์ มิลาน แต่กองหลัง "ฟ้า-ขาว" ก็ยังรักษาตำแหน่งตัวจริงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น หากวันไหน แว็งซ็องต์ ก็องปานี ไม่อยู่ ซาบาเลต้า คือคนที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ความดีความชอบเพียบแบบนี้ ได้ใจแฟนบอลไป 68 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น